ระบบบริหารคลังวัตถุดิบและสินค้า (e-Raw Material, Semi-Product & Finished Goods Management System) เป็นระบบโปรแกรมสำหรับการควบคุมคลังวัตถุดิบ ชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูป และสินค้า ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นแกนหลักสำหรับการวางแผนการผลิต ทั้งนี้เพราะหากสินค้ามีจำนวนเพียงพอที่จะส่งมอบตามคำสั่งซื้อระบบก็จะจัดทำใบเบิกสินค้าเพื่อเบิกสินค้าเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าโดยอัตโนมัติ แต่หากสินค้าสำเร็จรูปไม่เพียงพอระบบก็จะวางแผนใช้ชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปมาประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูป แต่หากชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปไม่เพียงพอระบบก็จะวางแผนการผลิตชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปให้โดยอัตโนมัติ โดยจัดทำใบเบิกวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิตชิ้นส่วนฯ และหากวัตถุดิบไม่พอระบบก็จะทำใบขอซื้อ (PR: Purchase Request) หรือ ใบสั่งซื้อ (PO: Purchase Order) ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ ระบบจะทำการเบิก-จ่ายผ่านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์(e-Document) ทั้งสิ้น รวมทั้งการตรวจรับสินค้า หรือ ชิ้นส่วนฯ หรือ วัตถุดิบเพื่อนำเข้าคลังก็เช่นกัน ระบบโปรแกรมนี้สามารถทำงานร่วมกับรหัสแท่ง (Barcode) หรือ RFID ซึ่งจะทำให้การนำเข้าและเบิก-จ่ายสินค้า ชิ้นส่วนฯ หรือ วัตถุดิบมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยองค์กรสามารถเชื่อมโยงข้อมูลส่วนนี้ร่วมกับคู่ค้าทั้งผู้แทนจำหน่ายและ/หรือผู้ขายวัตถุดิบผ่านระหว่างระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (e-Office) ของแต่ละฝ่ายได้ ซึ่งจะทำให้ต่างฝ่ายต่างมองเห็นยอดคงเหลือเพื่อจะได้เตรียมการผลิตแบบ JIT (Just-in Time) ได้ทัน และสร้างเป็นเครือข่าย e-Supply Chain หรือ ห่วงโซ่อุปทานได้โดยอัตโนมัติ ระบบโปรแกรมนี้มีคุณลักษณะเด่น ดังนี้

เป็นระบบที่ทำงานสัมพันธ์กับระบบพัสดุ/จัดซื้อ-จัดจ้าง ซึ่งสามารถแบ่งเป็นคลังจัดเก็บได้หลายประเภท อาทิเช่น คลังสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) คลังสินค้ากึ่งสำเร็จรูป หรือ ชิ้นส่วน (Semi-Product) และคลังวัตถุดิบ (Raw Material) เป็นต้น โดยการจัดเก็บข้อมูลของสินค้าหรือชิ้นส่วนแต่ละประเภทจะสามารถระบุสถานที่ (Location) เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ ค้นหา และเบิก-จ่าย

ะมีการจัดเก็บประวัติหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมด เช่น ข้อมูลการผลิต ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผู้ขาย หรือ Supplier และสถานะที่อยู่ในระหว่างกระบวนการผลิต เช่น ยังไม่ได้ทำสี หรือ ทำสีแล้ว เป็นต้น

ระบบนี้ จะรวมถึงคลังการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ และคลังวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในการผลิตด้วย เช่น ตะปู กาว พุก สายไฟฟ้า ฟิวส์ เป็นต้น

สามารถใช้ระบบเดียวกันนี้บริหารคลังเครื่องมือ (Tools) คลังอุปกรณ์จับยึด และอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตหรือซ่อมบำรุงเครื่องจักรต่างๆ ด้วย การบริหารการเบิก-จ่ายจักถูกควบคุมด้วยเอกสารการสั่งซื้อและ/หรือการสั่งผลิต ซึ่งจักมีการสร้างเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเบิก-จ่ายควบคู่มากับการสั่งผลิต และกำกับในเอกสารด้วยการโอนถ่ายข้อมูลมาเป็นชุดๆ ว่า การเบิก-จ่ายดังกล่าวสำหรับการผลิตสินค้า Lot ใด หรือ ของลูกค้ารายใด ซึ่งข้อมูลและเอกสารการเบิก-จ่ายที่มีการลงนามดิจิทัลรับรอง จักถูกโอนถ่ายข้อมูลไปเป็นต้นทุนของการผลิตสินค้า Lot นั้นๆ ในระบบบัญชีต้นทุน

โดยทั่วไปในการใช้งาน การนำสินค้า หรือ ชิ้นส่วน หรือ วัตถุดิบเข้าจัดเก็บในคลังจักต้องได้รับการตรวจสอบ หรือ ผ่านการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ QC เสียก่อน โดยระบบจะมีการตรวจเช็คจากเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดยอัตโนมัติว่า มีเจ้าหน้าที่ QC ลงนามรับรองหรือไม่? ถ้าผ่านการตรวจสอบระบบจึงจะโอนข้อมูล หรือ ไปตั้งรายการรอนำเข้าคลัง ซึ่งจะทำให้ลดโอกาสความผิดพลาดโดยมนุษย์

ระบบนี้สามารถสร้างรหัส Barcode ให้กับสินค้า ชิ้นส่วนประกอบ และวัตถุดิบได้ ซึ่งทำให้สะดวกในการตรวจนับและติดตาม

สามารถกำหนดจุดควบคุมต่ำสุด-สูงสุด(Max-Min) หรือ จุดสำรอง (Safety Stock) หรือ จุดสั่งซื้อใหม่ (Re-order Point) เพื่อควบคุม ปริมาณของสินค้าคงคลังให้อยู่ในจุดที่สมดุล หรือ เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ตลอดเวลา